วันพฤหัสบดีที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2556


ประวัติความเป็นมาของเครื่องยนต์
บทความ เนื้อเรื่อง หรือ คำอธิบาย โดยละเอียด
ประวัติความเป็นมาของเครื่องยนต์  
   
          การที่ปัจจุบันเราจะได้อาศัยยานพาหนะ
เครื่องจักร เครื่องทุ่นแรงต่าง ๆ มาอำนวยความสะดวก
แก่คนเราทุกวันนี้ ล้วนแล้วแต่เกิดจากแนวคิดนตนาการ ความสามารถของมนุษยที่มีวิวัฒนาการความคิดในการ
ประดิษฐ์สิ่งที่เป็นนามธรรม ให้กลายเป็นรูปธรรม
โดยอาศัยแนวคิด ทฤษฎีต่าง ๆ บุคคลเหล่านั้น
คือนักวิทยาศาสตร์
เครื่องจักร เครื่องยนต์ต่าง ๆ ซึ่งกว่าจะมาเป็นรถยนต์
จักรยานยนต์ และเครื่องจักรย่อมมีวิวัฒนาการประวัติ
ความเป็นมาที่ยาวนาน   ดังนี้
         - ค.ศ. 1794 ( พ.ศ. 2337) โรเบริ์ต สตรีท
( Robert Street ) ชาวอังกฤษสร้างเครื่องยนต์
เผาไหม้ภายในเครื่องแรก
           - ค.ศ. 1824( พ.ศ. 2367) ซาดี คาร์โน
( Sadi Carnot) ค้นคว้าเพิ่มเติมของสตรีทให้ดียิ่งขึ้น
           - ค.ศ. 1862( พ.ศ. 2405) โปเดอร์ โรชา
( Beau De Rochas)ชาวฝรั่งเศส ได้พิมพ์เอกสาร
หลักการทำงานของเครื่องยนต์ 4 จังหวะเป็นครั้งแรก
โดยเน้นหลักการต่อไปนี้
1.การอัดตัวของส่วนผสมของน้ำมันกับอากาศสูงสุดที่จุด
เริ่มต้นของการขยายตัวเท่าที่จะเป็นไปได้
2. การขยายตัวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
3. การขยายตัวรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
4. ปริมาตรความจุของกระบอกสูบมากที่สุด โดยมี
พื้นที่ระบายความร้อนน้อยที่สุด     
     - ค.ศ. 1872( พ.ศ. 2415) เบรย์ตัน ( Brayton)
ชาวเยอรมันนี ได้พัฒนาเครื่องยนต์สามารถใช้พาราฟิน และน้ำมันปิโตเลียมหนักเป็นเชื้อเพลิง           
     - ค.ศ. 1876( พ.ศ. 2419) ดร.ออตโต
( Dr.N.A.Auto) ชาวเยอรมันนี
สร้างเครื่องยนต์ 4 จังหวะตามหลักการของโรชา
และปรับปรุงให้มีประสิทธฺภาพสูงขึ้น ได้มีการประดิษฐ์ยานพาหนะทางบกที่ขับเคลื่อนด้วย
กำลังของตัวเองมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ผลสำเร็จ
ของการประดิษฐ์ เกิดขึ้นในปี 1876 นี้เอง
ต่อมาในปี ค.ศ. 1880 ( พ.ศ. 2422) มีความเจริญ
ก้าวหน้าอย่างมากเกิด
ขึ้นในเยอรมัน เมื่อ เดทเลอร์ ( Gottlieb Daimler)
และเบนซ์ ( Carl Benz) ทำงานร่วมกับมาย บัค
( Maybach) ได้ประดิษฐ์
เครื่องยนต์เครื่องแรก ปี ค.ศ. 1883 ( พ.ศ. 2425) โดยเครื่องยนต์ที่เขาประดิษฐ์ขึ้นนี้มีความเร็วรอบ
มากกว่าของออตโต ถึง 4 เท่า
คือความเร็วเท่ากับ 900 รอบต่อนาที
- ค.ศ. 1883 (พ.ศ. 2425) ผลิตเครื่องยนต์ที่เขา
ประดิษฐ์ขึ้นนี้มีความเร็ว
รอบมากกว่าของ ออตโต ถึง 4 เท่า คือ
ความเร็วเท่ากับ 900 รอบต่อนาที
- ค.ศ. 1884 (พ.ศ. 2426) เดมเลอร์ติดตั้งเครื่องยนต์
แรงม้าบนรถจักรยานยนต์
- ค.ศ.1881(พ.ศ.2423) เซอร์ดูกาล์ดเคลิก
( Sir Dugalald Clerk) ชาวอังกฤษประดิษฐ
์เครื่องยนต์แก๊สโซลีน 2 จังหวะ
- ค.ศ.1892(พ.ศ.2435) ดร. รูดอร์ฟ ดีเซล
( Dr.Rudolf Diesel) ชาวเยอรมันนีสร้าง
เครื่องยนต์ดีเซลโดยมีการนำเอาอัดอากาศร้อน
แล้วฉีดเชื้อเพลิงเข้าไปเผาไหม้แล้ว
เกิดความร้อนและความดัน ดันลูกสูบให้เคลื่อน
ที่ระบบจุดระเบิดด้วยแมกนีโต และหัวเทียนมาใช้กับ
เครื่องยนต์แก๊สโซลีน
- ค.ศ.1892(พ.ศ.2435) มีการนำเอาระบบจุด
ระเบิดด้วยแมกนีโต และหัวเทียนมาใช้กับ
เครื่องยนต์แก๊สโซลีน
- ค.ศ. 1893 (พ.ศ. 2436) มายบัค
ประดิษฐ์คาร์บูเรเตอร์ที่ใช้ระบบนมหนู
- ค.ศ. 1894 (พ.ศ. 2437) เบนซ์
ประดิษฐ์เครื่องยนต์ 2 แรงม้า
- ค.ศ. 1895 (พ.ศ. 2438) พันนาร์ด ( Pannard) ได้สร้างรถแบบปิดขึ้น และพี่น้องมิชลิน ได้ผลิตยางแบบเติมลมสำเร็จ
- ค.ศ. 1897 (พ.ศ. 2440) มอร์ ( Mors )
ชาวฝรั่งเศสได้ผลิตเครื่องยนต์ 8 สูบ ( V- 8)
แกรฟ และสตีฟ แห่งออสเตรียได้ผลิตรถยนต์
แก๊สโซลีนขับเคลื่อนล้อหน้า
- ค.ศ. 1898 (พ.ศ. 2441) เดมเลอร์
ผลิตเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง
- ค.ศ. 1899 (พ.ศ. 2442) เดมเลอร
์ผลิตหม้อน้ำ เกียร์ และการเร่งด้วยเท้าเรโนลท
์ แห่งฝรั่งเศส ได้ผลิตเพลาโดยมีข้อต่ออ่อนได้
- ค.ศ. 1901 (พ.ศ. 2444) เดมเลอร์ ผลิตรถเบนซ์ขึ้น จัดได้ว่าเป็นเครื่องยนต์สมัยใหม่เครื่องแรก
- ค.ศ. 1902 ( พ.ศ. 2445) สำปเดอร์ แห่งฮอลแลนด์
ได้ผลิตรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อ
ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง
- ค.ศ. 1903 ( พ.ศ. 2446) แอดเลอร์แห่งเยอรมันได้จดทะเบียนเพลาท้าย
อิสระซึ่งออกแบบโดย
ดร.อี รัมเพลอร์ และบอร์ ขายรถที่ติดตั้งช็คอัพ
เมาสเลย์ แห่งอังกฤษ ผลิตเครื่องยนต์ที่ใช
้เครื่องยนต์ O.H.C. และแอดเลอร์ แห่งฝรั่งเศส
ผลิตเครื่องยนต์ V 8
- ค.ศ. 1907 ( พ.ศ. 2447) อัศวิด แห่งอเมริกา ผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้ซูเปอร์ชาร์ด
- ค.ศ. 1908 ( พ.ศ. 2448) ฟอร์ด ผลิตรถยนต
์แบบโมเดล-ที และได้ผลิตระบบขุดระเบิดที่ใช้คอยล์
และจานจ่าย ส่วนเอร์เบอร์ต
ฟรูด ชาวอังกฤษ ใช้ใยหินทำผ่าเบรก และผ้าคลัทช์
- ค.ศ. 1909 ( พ.ศ. 2449) คลิสตี้ ชาวอเมริกันติดตั้ง
เครื่องยนต์ 4 สูบ และเกียร์กับรถยนต์ขับล้อหน้า
- ค.ศ. 1911 ( พ.ศ. 2451) คาลิแลค แนะนำ
การสตาร์ด้วยไฟฟ้า และระบบไฟแสงสว่างกับไดนาโม
- ค.ศ. 1912 ( พ.ศ. 2452) เปอร์โย แนะนำเครื่องยนต์
ที่ใช้เพลาลูกเบี้ยวคู่
- ค.ศ. 1913 ( พ.ศ. 2452) อังกฤษ ใช้คาร์บูเรเตอร์
แบบสุญญากาศคงที่ (S.U.)
- ค.ศ. 1919 ( พ.ศ. 2458) อิสปาโน ซุบซา แห่งสเปน
ใช้เบรกแบบช่วยเพิ่มพลัง
   หลักจากนั้นก็ได้มีนักประดิษฐ์อื่น ๆ ที่คิดประดิษฐ์ส่วนประกอบต่าง ๆ ของรถยนต์อีกมากมายจนทำให้เป็นรถยนต์ที่สมบูรณ์แบบในปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามความ
เจริญก้าวหน้าของรถยนต์ ก็ยังไม่มีหยุดยั้งยังต้องมีผู้ประดิษฐ์ คิดค้นสิ่งใหม่ ๆกับรถยนต์ ต่อไปอีก อย่างไม่หยุดยั้ง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น